The Girl with Dragon Tattoo : หญิงสาวผู้มีรอยสักรูปมังกร
--
The Girl with the Dragon Tattoo (2009)
เรต : R เวลาฉาย : 152 นาที ประเภท : Crime | Drama | Mystery
ผู้กำกับ :Niels Arden Oplev
เกร็ด :
-สร้างจากผลงานของนักเขียนชื่อดังชาวสวีเดน Stieg Larsson ที่ขายได้กว่า 50 ล้านเล่มทั่วโลก และถูกแปลขายไปกว่า 46 ประเทศ
-ปัจจุบันฮอลีวูดซื้อไปรีเมคเรียบร้อยแล้ว โดยมี Daniel Craig และ Rooney Mara นำแสดง
--
ฉันได้ยินเกี่ยวกับกิตติศัพท์ความสนุกของหนังเรื่องนี้มานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดูสักที เพิ่งจะมีโอกาสได้ดูก็วันนี้เอง และก็สมกับคำร่ำลือ
The Girl with the Dragon Tattoo เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนต์ไตรภาคของชุด The Millennium Trilogy ที่มีอีกสองภาคชื่อ The Girl Who Played with Fire และ The Girl Who Kicked the Hornet's Nest ซึ่งฉันได้ดูติดต่อกันทั้ง 3 ภาคแล้วตัดสินว่า ภาคแรกสนุกที่สุด
เนื้อหาของหนังเป็นเรื่องของนักข่าวการเงินที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ถนัดทำข่าวแนวสืบสวน ขุดคุ้ย เปิดโปง การฉ้อฉลต่างๆ ในแวดวงธุรกิจชื่อ มิคาเอล บลูมควิสต์ (Michael Nyqvist) เขาถูกศาลตัดสินว่าเขียนข่าวด้วยข้อมูลเท็จ ต้องพักงานไป 6 เดือนเพื่อรอยื่นอุธรณ์
ในช่วงนี้ได้มีมหาเศรษฐีชรา เฮนริก แวงเกอร์ อดีตผู้บริหารกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้รู้กิตติศัพท์ความเชี่ยวชาญในการหาข้อมูลต่างๆ ของเขา ได้ติดต่อว่าจ้างให้ไขปริศนาการหายตัวไปของหลานสาววัย ๑๖ ปี ในวันรวมญาติของครอบครัว ซึ่งผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี มิคาเอล หรือ มิเคลรับปากและต้องย้ายมาอาศัยอยู่ที่เกาะนี้เพื่อสืบหาความจริงเป็นเวลา 6 เดือน
ในขณะที่กำลังควานหาความจริงอยู่นั่น และติดอยู่กับปริศนาอันหนึ่งที่เขาแก้ไม่ตกได้มีอีเมลล์มาช่วยแก้ไขปริศนานี้ให้ ทำให้เขาได้รู้จักกับเธอ ลิสเบท ซาลานเดอร์ (Noomi Rapace) หญิงสาวผู้มีลายสักรูปมังกรอยู่ที่ด้านหลัง เธอเป็นแฮกเกอร์ฝีมือฉกาจ เชี่ยวชาญในการจารกรรมข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตทุกรูปแบบ ทั้งคู่มีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่สามารถช่วยกันไขปริศนานี้ได้อย่างดี แต่ยิ่งสืบไปก็พบว่า พวกเขาแกะรอยเรื่องหนึ่งไปสู่เรื่องใหม่ๆ ที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
ไม่เพียงคดีที่ถูกจ้างมาสืบเท่านั้นที่พวกเขาต้องแก้ไข ยังมีเรื่องปมส่วนตัวของนางเอกอีกที่รอวันสืบค้นว่าอดีตของลิซเบทเธอพบเจอกับอะไรบ้าง เหตุใดจึงส่งผลต่อพฤติกรรมของเธอให้เป็นคนก้าวร้าว และแปลกแยกได้ถึงขนาดนี้
หนังเรื่องนี้ค่อนข้างยาว แต่ดำเนินเรื่องราวได้กระชับ สนุก และยากจะคาดเดาได้ มีทุกอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นบู๊ ดราม่่า สืบสวน ระทึกขวัญ โรแมนติก ฯลฯ ฉันชอบตรงที่หนังกล้าท้าทายอารมณ์ผู้ชมด้วยการนำเสนอรูปแบบด้านมืดของมนุษย์กับตัวเอกซึ่งยากจะเห็นจากเรื่องอื่น และบุคลิกตัวเอกของเรื่องนี้ก็มีมิติลึกหลายชั้นดูสมเหตุสมผลจับต้องได้
แต่ไม่ใช่ว่าหนังจะเครียด โหดร้ายมากจนเกินไป เพราะยังมีมุมกุ๊กกิ๊กให้ชมเพลินๆ เหมือนกัน แม้ฉันจะแอบหมั่นใส้เล็กๆ ที่นางเอกเล่นตัวเกิน 555 ยิ่งภาคหลังๆ นี่ ไม่รู้รักษาฟอร์มไปทำไม ทั้งๆ ที่ก็ชอบเค้าเหมือนกัน ( หวังว่าจะไม่ใช่การสปอย)
สำหรับความเห็นของฉันถ้าให้เลือกจาก 3 ภาค ขอเลือกดูภาค 1 เพราะสนุกที่สุด ภาคหลังๆ จะค่อนข้างดราม่าไปหน่อยสำหรับผู้คาดหวังจะดูหนังสืบสวน ระทึกขวัญแบบนี้
หมายเหตุ มีภาพจากฝั่งฮอลีวูดแปะให้ดูด้วย เพื่อเปรียบเทียบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น